วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด(Apperception)

ทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษ์ที่ 20        ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด(Apperception)



images.ranunanetc3.multiply.multiplycontent.com)
         (Apperception หรือ Herbartianism) นักคิดกลุ่มนี้ คือ จอห์น ล็อค ทิชเชเนอร์ และแอร์บาร์ต ซึ่งความเชื่อ        ของนักคิดกลุ่มนี้เชื่อว่าการเรียนร้ นั้น มนุษย์เกิดมาไม่มีทั้งความดีความเลวในตัวเอง การเรียนร้เกิดได้จากแรงกระต้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม (neutral-passive)  มนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับจิตหรือสมองที่ว่างเปล่า การเรียนร้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 การส่งเสริมให้บุคคลมีประสบการณ์มาก ๆ ในหลาย ๆ ทาง จึงเป็นการช่วยให้บุคคลเกิดการเรียนร้ได้ดี




(www.wijai48.com )
          ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด(Apperception)  นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า  การเรียนรู้เกิดจากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม(neutral - passive)  การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 (sensation)  และความรู้สึก(feeling) คือ การตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผัส  การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้จึงเน้นให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5  และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้เป็นอย่างดี


ทิศนา  แขมมณี (2554 : 49)
        กล่าวว่า นักคนคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ จอห์น ล็อค (John Locke) วิลเฮล์ม วุนด์(Wilhelm Wundt)
ทิชเชเนอร์(Titchener) และ แฮร์บาร์ต (Herbart) ซึ่งมีความเชื่อดังนี้ (Bigge, 1964:33-47)
        ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
        1)  มนุษย์เกิดมามีทั้งความดีและความเลวในตัวเอง การเรียนรู้เกิดได้จากแรงกระตุ้นภายนอก หรือสิ่งแวดล้อม (neutral - passive)
       2)  จอห์น ล็อค เชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับจิตหรือสมองที่ว่างเปล่า(tabula rasa) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 การส่งเสริมให้บุคคลมีประสบการณ์มากๆ ในหลายๆ ทางจึงเป็นการช่วยให้บุคคลเกิดการเรียนรู้
        3)  วุนด์  เชื่อว่าจิตมีองค์ประกอบสองส่วน คือ การสัมผัสทั้ง 5 (sensation) และการรู้สึก (feeling) คือการตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผัส
        4)  ทิชเชเนอร์มีความเห็นเช่นเดียวกับวุนด์ แต่ได้เพิ่มส่วนประกอบของจิตอีก 1ส่วนได้แก่ จินตนาการ (immagination) คือการคิดวิเคราะห์
        5)  แฮร์บาร์ต  เชื่อว่าการเรียนรู้มีสามระดับคือ ขั้นการเรียนรู้โดยประสาทสัมผัส (sense activity)  ขั้นการจำความคิดเดิม (memory characterized) และขั้นเกิดความคิดรวบยอดและการเข้าใจ (conceptual  thinking 0r understanding)  การเรียนรู้เกิดขึ้นจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5  และสั่งสมประสบการณ์ หรือความรู้เหล่านี้ไว้การเรียนรู้นี้จะขยายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ  เมื่อบุคคลได้รับประสบการณ์หรือความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น โดยผ่านกระบวนการเชื่อมโยงและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ใหม่และความรู้เดิมเข้าด้วยกัน (apperception)
         6)  แฮร์บาร์ต เชื่อว่าการสอนควรเริ่มจากกระบวนการความรู้เดิมของผู้เรียนเสียก่อนแล้วจึงเสนอความรู้ใหม่  ต่อไปควรจะช่วยให้ผู้เรียนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ จนได้ข้อสรุปที่ต้องการแล้วจึงให้ผู้เรียนนำข้อสรุปที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับปัญหาหรือสถานการณ์ใหม่ๆ
        หลักการจัดการศึกษา/การสอน
        1)  การจัดให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5  เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
        2)  การช่วยให้ผู้เรียนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่  จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้อย่างดี
        3)  การสอนโดยดำเนินการตาม 5ขั้นตอนของแฮร์บาร์ต  จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีและรวดเร็ว  ขั้นตอนดังกล่าวคือ
                3.1)  ขั้นเตรียมการหรือขั้นนำ (preparation)  ได้แก่การเร้าความสนใจของผู้เรียนและการทบทวนความรู้เดิม
                3.2)  ขั้นเสนอ (presentation)  ได้แก่การเสนอความรู้ใหม่
                3.3)  ขั้นการสัมพันธ์ความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ (comparison and abstraction)  ได้แก่ การขยายความรู้เดิมให้กว้างออกไปโดยสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ  เช่น การเปรียบเทียบ  การผสมผสาน  ฯลฯ ทำให้ได้ข้อเท็จจริงใหม่ที่สัมพันธ์กับประสบการณ์เดิม
                3.4)  ขั้นสรุป  (generalization)  ได้แก่ การสรุปการเรียนรู้เป็นหลักการหรือกฏต่างๆ ที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับปัญหาหรือสถานการณ์อื่นๆต่อไป
                3.5)  ขั้นประยุกต์ใช้ (application)  ได้แก่ การให้ผู้เรียนน้ำข้อสรุปหรือการเรียนรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม




สรุป
มนุษย์เกิดมาไม่มีทั้งความดีและความเลวในตัวเอง การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม (neutral - passive)  คนเราเกิดมาพร้อมกับจิตหรือสมองที่ว่างเปล่า (tabula rasa) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 การส่งเสริมให้บุคคลมีประสบการณ์มาก ๆ ในหลาย ๆ ทางจึงเป็นการช่วยให้บุคคลเกิดการเรียนรู้  จิตมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือการสัมผัสทั้ง 5 (sensation) แลการรู้สึก (feeling) คือการตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผัส  และ ส่วนประกอบของจิตอีก 1 ส่วน ได้แก่ จินตนาการ (imagination) คือการคิดวิเคราะห์  การเรียนรู้มี 3 ระดับคือขั้นการเรียนรู้โดยประสาทสัมผัส (sens activity) ขั้นจำความคิดเดิม (memory characterized) และขั้นเกิดความคิดรวบยอดและเข้าใจ (conceptual thinking or understanding) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 และสั่งสมประสบการณ์หรือความรู้เหล่านี้ไว้ การเรียนรู้นี้จะขยายขอบเขตออกไปเรื่อย ๆ เมื่อบุคคลได้รับประสบการณ์หรือความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น โดยผ่านกระบวนการเชื่อมโยงและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ใหม่กับความรู้เดิมเข้าด้วยกัน ( apperception)  การสอนควรเริ่มจากการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียนเสียก่อนแล้วจึงเสนอความรู้ใหม่ ต่อไปควรจะช่วยให้ผู้เรียนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ จนได้ข้อสรุปที่ต้องการแล้วจึงให้ผู้เรียนนำข้อสรุปที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับปัญหาหรือสถานการณ์ใหม่ ๆ







อ้างอิงค์[ออนไลน์] ชื่อเว็บไซน์ : images.ranunanetc3.multiply.multiplycontent.com :เข้าถึงเมื่อ  24/06/2555 [ออนไลน์] ชื่อเว็บไซน์ :www.wijai48.com :เข้าถึงเมื่อ  24/06/2555
ทิศนา  แขมมณี .(2554:49).ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ.สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย :เข้าถึงเมื่อ  24/06/2555 




















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น